วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

การประกันราคาขั้นต่ำ



  เมื่อพูดถึงคำว่า การประกันราคาขั้นต่ำ (Price support)  นั่นก็คือ การกำหนดราคาซื้อขายไว้สูงกว่าราคาดุลยภาพ (จุดดุลยภาพนั้นเป็นจุดที่ปริมาณความต้องการซื้อเท่ากับปริมาณความต้องการขายพอดี)

ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับราคาสินค้าที่ต่ำเกินไปนั่นเอง  ส่วนใหญ่เป็น สินค้าการเกษตร


แล้วทำไมต้องประกันราคาขั้นต่ำ หล่ะ??

        ปกติถ้าเราปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดก็จะต้องมีการซื้อขายกันที่จุดดุลยภาพ   ซึ่งรัฐบาลมองว่าราคาดุลยภาพเป็นราคาที่ต่ำเกินไป  เรียกได้ว่าพ่อค้าคนกลางมักจะซื้อสินค้าเกษตรในราคาที่ต่ำ   ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซงค่ะ  โดยกำหนดราคาขั้นต่ำสูงกว่าราคาดุลยภาพนั่นเอง

มาตรการที่ 1 รัฐบาลรับซื้ออุปทานส่วนเกิน(Excess  Supply)

        โดยรัฐบาลจะตั้งราคาประกันขั้นต่ำและต้องมีการซื้อขายกันที่ราคานี้  ไม่อย่างนั้นจะผิดกฎหมาย   คราวนี้ลองคิดดูนะคะว่าถ้าเราเป็นผู้ซื้อแล้วเจอราคาที่สูงกว่าราคาดุลยภาพ (ราคาที่เรายอมรับได้) เราจะอยากซื้อหรือไม่ แต่ที่แน่ๆผู้ขายคือเกษตรกรชอบแน่นอน

        คราวนี้จึงเกิดอุปทานส่วนเกินขึ้นคือปริมาณความต้องการขายมากกว่าปริมาณความต้องการซื้อ     สินค้าเกษตรก็จะเหลือ


รัฐบาลจะจัดการกับสินค้าเกษตรอย่างไร???   

         1. รัฐบาลจะรับซื้ออุปทานส่วนเกินทั้งหมด  จึงต้องมีงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล

          2. ต้องเตรียมไซโลไว้รองรับสินค้าเกษตรที่รัฐบาลรับซื้อ


สินค้าที่รับซื้อจะนำไปทำอะไร

          1. ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน  เช่น  น้ำท่วม  ภาวะแห้งแล้ง

          2. บริจาคต่างประเทศที่ประสบปัญหาด้านต่างๆ

          3. นำออกจำหน่ายในตลาด


รัฐบาลจะมีหนทางอื่นอย่างไร

         1. รัฐบาลหาทางลดการผลิตให้น้อยลง  โดยชักชวนหรือส่งเสริมให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นที่รายได้ดีกว่า

         คราวนี้ลองมีดูสภาพความเป็นจริงกันบ้าง   ยกตัวอย่างเช่น การประกันราคาข้าวเปลือก  สามารถทำได้บางพื้นที่  เพราะฉะนั้นเราควรเรียกว่า

          "การพยุงราคา" คือ การที่รัฐบาลดำเนินการรับซื้อผลผลิตเฉพาะในบางท้องที่  เพื่อกระตุ้นให้ราคาตลาดสูงขึ้น  



การกำหนดราคาขั้นต่ำ   เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ผลิตไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ราคาสินค้าที่ผลิตได้ต่ำเกินไปไม่คุ้มทุนที่ลงไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น